Last updated: 9 ก.พ. 2566 | 191 จำนวนผู้เข้าชม |
หัวใจการเป็นพ่อแม่
ในยุคสมัยที่เปลี่ยนไปทำให้ครอบครัวของคนรุ่นใหม่มีเวลาส่วนตัวน้อยลง เวลาส่วนมากถูกใช้หมดไปกับการทำงาน ดังนั้น คำถามที่ว่า เราจะเลี้ยงลูกแบบไหนจึงจะทำให้เขา เก่ง ดี มีความสุข และมีความฉลาดทางอารมณ์ จึงเป็นโจทย์ที่แสนยาก และ ท้าทายสำหรับพ่อแม่ยุคใหม่
การอบรมเลี้ยงดูในช่วงต้นของชีวิต เป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นมาก เพราะเป็นการวางพื้นฐานทางบุคลิกภาพของเด็กที่จะฝังติดตัวไปจนถึงวัยเป็นผู้ใหญ่ เด็กที่ได้รับการอบรมเลี้ยงดู และตอบสนองความต้องการทางกายใจ สังคม ด้วยความรัก ความอบอุ่น อย่างเพียงพอ เหมาะสม จะทำให้เด็กรู้สึกว่า ได้รับการยอมรับจากคนรอบข้างรู้สึกมั่นใจ ภาคภูมิใจและตระหนักถึงคุณค่าของตนเอง ซึ่งทำให้เด็กคนนั้นเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพของสังคม
พ่อแม่และคนเลี้ยงดูใกล้ชิด จึงเป็นบุคคลที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อลูก นอกเหนือจากความรักความอบอุ่นที่มีให้ลูกแล้ว หน้าที่สำคัญ ของ พ่อแม่ที่มีต่อลูกเพื่อทำให้เกิดความผูกพัน และมีปฏิสัมพันธ์ที่มีคุณภาพ มีดังนี้
รู้จักลูกของตน : รู้ว่าลูกเรามีพื้นอารมณ์ เป็นแบบไหน ชอบ – ไม่ชอบ อะไร สิ่งใดมีผลต่ออารมณ์ของลูก
เชื่อมโยงผูกพันทางอารมณ์กับลูก : มีการสัมผัสทางกายใกล้ชิดลูก
ตอบสนองทางอารมณ์ของลูกอย่างเหมาะสม : รู้จักการสื่อสารเชิงบวกกับลูก เพื่อให้ลูกรู้สึกดีต่อตนเอง
เป็นที่พึ่งทางจิตใจของลูก เมื่อลูกต้องการ
ทำอย่างไรจึงจะเป็นพ่อแม่ที่มีคุณภาพได้
1.มีเวลาที่มีคุณภาพกับลูก สมัยก่อนเราคงจะคุ้นเคยกับคำพูดที่ว่า “เป็นลูกต้องเชื่อฟังพ่อแม่” ปัจจุบันด้วยความจำเป็นของสภาพสังคม เราควรใช้เวลาที่มีจำกัดให้เป็นเวลาที่มีคุณค่า ดังนั้นพ่อแม่ยุคใหม่ควรเรียนรู้ที่จะเป็น “พ่อแม่ที่รับฟังลูก” รับฟังลูกโดยเข้าใจ ไม่ตัดสิน มีเวลาถ่ายทอดเรื่องราวกับลูกและให้โอกาสลูก สำหรับเรียนรู้ ฝึกฝนสิ่งต่างๆ แบบไม่เร่งรัด กดดันลูก
2.ส่งเสริมให้ลูกมีโอกาสช่วยเหลือตนเอง ตามวัยเด็กที่มีโอกาสได้ลองทำอะไรด้วยตนเอง จะทำให้เขาสามารถพัฒนาการทักษะต่างๆ พึ่งพาตนเองได้ ซึ่งสิ่งสำคัญ คือ เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นตนเองได้ในที่สุด
3.ให้รู้จักชีวิตที่มีกฎกติกา พ่อแม่ ควรสอนให้ลูกได้รู้ว่าสิ่งใดทำได้ สิ่งใดไม่ควรทำ เพื่อให้ลูกได้เรียนรู้ กรอบ และ ขอบเขตของการใช้ชีวิตทั้งในบ้าน และในสังคม เช่น
มีกฎระเบียบของบ้าน การกินอยู่หลับนอนเป็นเวลา มีกฎกติกาของการเล่นเกม การดูโทรทัศน์
มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ส่วนรวมในบ้าน เช่น จัดโต๊ะกินข้าว ทิ้งขยะ
รู้จักระเบียบของสังคม เช่น การเข้าคิวรอคอย การข้ามถนน โดยใช้สะพานลอย ทิ้งขยะในที่เหมาะสม
ให้ลูกได้เรียนรู้จากเหตุการณ์ในชีวิตประจำวัน โดยมีพ่อแม่เป็นต้นแบบที่ดี เด็กจะเรียนรู้ทั้งทางตรง และทางอ้อม โดยดูจากการกระทำของพ่อแม่ คนใกล้ชิด ดังนั้น พ่อแม่ต้องเป็นต้นแบบที่ดีของลูก ตั้งแต่ คำพูด วิธีคิด และการกระทำ เช่น พูดจาสุภาพ ไพเราะ มีการช่วยเหลือกันระหว่างพ่อแม่ ควบคุมอารมณ์ ได้คงเส้นคงวา รู้จักใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ ในการตัดสินต่างๆ สิ่งเหล่านี้เด็กจะซึมซับจากการกระทำของพ่อแม่ และเป็นสิ่งที่เด็กยึดเป็นค่านิยมในการดำเนินชีวิต
สิ่งเหล่านี้พ่อแม่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้ด้วยมือ และพลังความรักความเข้าใจของพ่อแม่ การเลี้ยงลูกโดยยึดทางสายกลาง คือ ไม่รัก และปกป้องมากเกินไป ไม่วิตกกังวลจนเกินเหตุ ไม่ตามใจมากจนไร้ขอบเขต หรือ เข้มงวด เจ้าระเบียบจนเกินไป บรรยากาศแบบนี้ในครอบครัว จะส่งเสริมให้ลูกมีพัฒนาการทางกายใจ ที่ดี รู้จักรัก และเห็นใจผู้อื่น มีสุขภาพจิตที่ดี สิ่งเหล่านี้เป็นการเตรียมพร้อมให้ลูกมีทักษะชีวิตที่ดี สำหรับปรับตัวในอนาคตข้างหน้าได้
ข้อคิดสำหรับพ่อแม่
การให้ความรักอย่างเดียว ไม่เพียงพอที่จะเลี้ยงลูกได้ประสบความสำเร็จ
ความรู้สึกมีคุณค่าในตัวเอง เป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้เด็กเติบโต เป็นผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จ
เมื่อเด็กได้ยินคนอื่นพูดตัวเองบ่อยๆ ไม่ว่าในด้านดีหรือไม่ดี ในที่สุดเขาจะเชื่อว่าเขาเป็นคนอย่างนั้นจริงๆ
คำพูดดีดีจากพ่อแม่คนใกล้ชิด มีแต่เพิ่มพลัง คำพูดไม่ดี ทำให้เกิดความท้อถอย หมดกำลังใจ และสูญเสียพลังของการพัฒนาจุดอ่อนของเด็ก คือ ความสนุก เมื่อใดที่พวกเขาสนุก เขาจะให้ความร่วมมือ ตั้งใจกับสิ่งนั้น เป็นพิเศษ พ่อแม่สามารถเลือกที่จะสอนให้เขาได้เรียนรู้ข้อมูลสำคัญ โดยที่พวกเขาไม่รู้สึกว่ากำลังจริงจังอยู่
6 มิ.ย. 2567
6 มิ.ย. 2567
1 มิ.ย. 2567
1 มิ.ย. 2567