การเตรียมคลอดของคุณแม่

เมื่ออายุครรภ์ประมาณ 36 สัปดาห์ คุณแม่ใกล้คลอดควรเตรียมของใช้ล่วงหน้าให้พร้อมนะคะ เราแนะนำให้จัดกระเป๋าเตรียมคลอดเพื่อใส่สิ่งของที่จำเป็นไว้ให้เรียบร้อยล่วงหน้าก่อนเวลาคลอดจะมาถึง วิธีนี้จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ไม่หลงลืมของสำคัญบางอย่าง เพิ่มความรู้สึกมั่นใจ และที่สำคัญคือช่วยลดความกังวลและความวุ่นวายโกลาหลในช่วงเวลาเจ็บท้องกระทันหันด้วยนะคะ นอกจากนั้นควรจดรายการสิ่งของที่อาจจะต้องหยิบฉวยในวันที่จะต้องไปโรงพยาบาลจริงไว้ด้วยเพื่อเตือนตัวเองหรือสามีจะได้ไม่หลงลืมหยิบเพิ่มเติมไปค่ะ ซึ่งคุณแม่คุณพ่อสามารถโทรสอบถามโรงพยาบาลว่ามีเครื่องใช้อะไรให้บ้างก่อนไป แต่ทางที่ดีเราควรเตรียมของใช้ประจำตัวให้พร้อมก่อนไป และควรเตรียมให้จำนวนเพียงพอสำหรับไปค้างคืน 3-5 วันขึ้นอยู่กับระยะเวลาการพักฟื้นตามแพคเกจของคุณแม่นะคะ

ของใช้จำเป็นสำหรับคุณแม่เตรียมคลอด

หากคุณแม่อยู่ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายหรือ 2 สัปดาห์สุดท้ายของการตั้งครรภ์และกำลังเตรียมตัวจัดกระเป๋าเพื่อไปคลอด คุณแม่ควรจัดกระเป๋าให้พร้อมทั้งของใช้จำเป็นสำหรับคุณแม่และเจ้าตัวน้อยด้วยนะคะ เพราะหลังการคลอดแบบธรรมชาติ คุณแม่จะใช้เวลาพักฟื้นในโรงพยาบาลราว 2-3 วัน หากเป็นการผ่าตัดคลอดต้องนอนพักโรงพยาบาล 3-5 วัน ซึ่งทางโรงพยาบาลเอกชนอาจจัดเตรียมของเครื่องอำนวยความสะดวกที่จำเป็นไว้ให้ตามแพคเก็จที่คุณแม่เลือก แต่ถ้าเป็นไปได้ก็ควรเตรียมสิ่งเหล่านี้เอาไว้ มาดูกันเลยค่ะว่ามีอะไรบ้าง

หมวดของใช้สำหรับคุณแม่

• ชุดหรือเสื้อยืดสวมใส่ง่าย สบายตัว ค่อนข้างหลวมหรืออาจเป็นเสื้อสำหรับให้นมบุตรสำหรับใส่กลับบ้าน ซึ่งปัจจุบันมีการออกแบบที่สวยงาม เปิดตำแหน่งหัวนมได้ และเสื้อผ้าสำหรับคุณพ่อหรือญาติที่จะนอนเฝ้าประมาณ 3-4 ชุดตามจำนวนวันที่คุณแม่นอนพักฟื้น
• ผ้าคลุมให้นมบุตร เพราะอาจมีญาติ เพื่อนฝูง แขกเหรื่อมาเยี่ยมเยียนร่วมแสดงความยินดีกับคุณแม่มากมายจนอาจเลยเวลาหรืออยู่ในช่วงเวลาที่จะต้องให้นมลูก ซึ่งคุณแม่สามารถให้นมลูกและพูดคุยกับทุกคนไปพร้อมๆกันได้โดยที่ไม่ต้องเขินอายเลยค่ะ
• สมุดประจำตัวทารก ที่คุณแม่ตั้งครรภ์ทุกคนได้รับจากโรงพยาบาล ตั้งแต่ตอนฝากครรภ์ จะมีประวัติการตรวจร่างกาย การพบแพทย์ตลอด 9 เดือน
• เครื่องสำอางค์ แป้ง แปรงหวีผม โลชันบำรุงผิว ครีมบำรุงผิว ยางรัดผม แปรงสีฟัน ยาสีฟัน เพื่อให้คุณแม่มั่นใจและมีบุคลิกภาพที่ดีตลอดเวลาแม้หลังคลอดลูก
• ลิปบาล์ม คุณแม่สามารถพกลิปมันสูตรปลอดภัยไปด้วยก็ดีนะคะ ทาบ่อย ๆ เวลาคุณแม่รู้สึกปากแห้งปากแตกระหว่างรอคลอดหรือช่วงพักฟื้นหลังคลอด
• ถุงเท้าแบบหนา ในช่วงเวลาใกล้คลอด คุณแม่อาจจะรู้สึกเย็นปลายเท้า หรืออยู่ในห้องแอร์เย็น ๆ ควรเตรียมไว้ให้พร้อมสะดวกกว่าค่ะ
• แว่นตาสำรอง คุณแม่ที่สายตาสั้นไม่ควรใส่คอนแทคเลนส์มานะคะ เปลี่ยนไปใช้เป็นแว่นตาสำรองแทนดีกว่า เพื่อที่จะไม่มีปัญหาเรื่องคอนแทคเลนส์หลุดหรือว่าเผลอนอนหลับไปโดยไม่ได้ถอดคอนแทคเลนส์ จะช่วยลดความเสี่ยงติดเชื้อที่ดวงตาหรือเป็นโรคตาแห้งได้ด้วยค่ะ
• สเปรย์สระผมแบบแห้ง คุณแม่หลังคลอดบางท่านอาจได้รับคำแนะนำจากผู้ใหญ่ว่ายังไม่ให้สระผมทันทีหลังคลอดนาน 5-7 วัน หรือในบางรายก็โดน 15-30 วันเชียวค่ะ สเปรย์ตัวนี้จะช่วยทำความสะอาดผม ขจัดความมันทำให้คุณแม่รู้สึกสดชื่นและช่วยรักษาความสะอาดเวลาอยู่ใกล้ลูกน้อยด้วยค่ะ
• แผ่นซับน้ำนมและเสื้อชั้นในสำหรับให้นมบุตร คุณแม่บางท่านอาจมีน้ำนมมากตั้งแต่หลังคลอด ลองแปะแผ่นซับน้ำนมด้านในชุดชั้นในให้นมบุตรจะช่วยป้องกันไม่ให้น้ำนมไหลเลอะเสื้อผ้าระหว่างวันในช่วงที่ยังอยู่โรงพยาบาลนะคะ
• เครื่องปั้มนมขนาดพกพาและถุงเก็บน้ำนมแม่ขนาดเล็ก(4 ออนซ์) แม้ว่าหลังคลอดคุณแม่จะยังไม่ได้กลับบ้านทันที แต่คุณแม่สามารถเริ่มสะสมสต้อกนมแม่ให้ลูกน้อยได้ตั้งแต่อยู่โรงพยาบาลนะคะ โดยสามารถปั้มนมหลังจากให้ลูกน้อยดูดจากเต้าแล้วฝากพยาบาลแช่แข็งทันที หรือคุณแม่สามารถแช่เย็นช่องธรรมดาและสะสมรวมกันได้หลายรอบจนครบจำนวนออนซ์ที่ต้องการภายใน 24 ชม.แล้วจึงแช่แข็งก็ได้ค่ะ หรือในบางรายที่ลูกน้อยจำเป็นที่จะต้องอยู่ในความดูแลของพยาบาลอย่างใกล้ชิด ทำให้คุณแม่ไม่สามารถให้นมลูกจากเต้าได้ แต่คุณแม่สามารถปั้มนมและใส่ถุงเก็บน้ำนม เขียนวันที่ เวลา ชื่อลูกให้ชัดเจน ส่งผ่านพยาบาลไปยังห้องเนอสเซอรี่ให้ลูกกินได้ตลอดเวลานะคะ เพราะน้ำนมช่วงแรกจะข้นเหลืองเป็นวัคซีนป้องกันโรคภัยให้ลูกชั้นดีเชียวล่ะค่ะ
• กระเป๋าเก็บความเย็นและแผ่นเจลเก็บความเย็น ในวันกลับบ้านหากคุณแม่มีสต้อกนมเยอะสามารถเก็บรักษานมแม่ในกระเป๋าเก็บความเย็นระหว่างทางกลับบ้าน จะช่วยรักษาคุณประโยชน์ของนมแม่และไม่ทำให้บูดเสียค่ะ
• ชุดชั้นในและผ้าอนามัย ภายหลังคลอดจะมีเลือดคล้ายประจำเดือนไหลออกมา คุณแม่ไม่ต้องตกใจไปนะคะเพราะเป็นธรรมชาติที่มดลูกจะขับเลือดและของเหลวที่ยังคั่งค้างภายในมดลูกระหว่างตั้งครรภ์ออกเป็นการทำความสะอาดไปในตัว ซึ่งคุณแม่จะได้ใช้ชุดชั้นในและผ้าอนามัยหลังจากที่คุณหมออนุญาติให้ถอดสายปัสสาวะออกได้ เพราะนั่นหมายถึงคุณแม่จะลุกไปเข้าห้องน้ำและทำความสะอาดร่างกายเองได้แล้วค่ะ
• แผ่นรัดหน้าท้อง การกระชับหน้าท้องหลังการคลอดโดยใช้แผ่นรัดหน้าท้องเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมมากค่ะ นอกจากจะช่วยให้มดลูกกระชับ ไม่หย่อนคล้อย หน้าท้องก็หดเข้ารูปได้เร็วขึ้นแล้ว ยังเป็นตัวช่วยบรรเทาความเจ็บปวดสำหรับคุณแม่ผ่าคลอดได้อย่างดีเยี่ยม เป็นตัวช่วยประคองให้เจ็บแผลน้อยลงเวลาเดินหรือเคลื่อนไหว คุณแม่จะฟื้นตัวได้เร็วขึ้นด้วยนะคะ
• รองเท้าแตะสวมสบาย ใช้เวลาลุกเดินไปเข้าห้องน้ำ
• โทรศัพท์มือถือและสายชาร์จเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย เพื่อใช้ติดต่อสื่อสาร และอัพเดตเรื่องราวลงโซเชียลมีเดียของคุณแม่คุณพ่อค่ะ
• ถุงประคบร้อนบรรเทาอาการปวดเมื่อยเพื่อให้คุณแม่รู้สึกสบายตัวขึ้น
• ลูกอม ขนมหวาน ขนมขบเคี้ยว เครื่องดื่มประเภทน้ำผลไม้ ไว้สำหรับคุณพ่อหรือญาติที่เฝ้าคุณแม่ รับประทานเวลาหิวระหว่างวัน
• เพลงสำหรับเปิดเพื่อสร้างความผ่อนคลายในช่วงพักฟื้น

หมวดของใช้สำหรับลูกน้อย

• ถุงมือ ถุงเท้า หมวก ผ้าเช็ดน้ำลาย ใช้เพิ่มความอบอุ่นให้กับลูกน้อยระหว่างที่อยู่ที่โรงพยาบาลจนวันกลับบ้าน
• ผ้าอ้อมแบบซักได้หรือผ้าอ้อมสำเร็จรูป ผ้าห่อตัว และชุดสูทใส่วันกลับบ้าน แม้ว่าบางโรงพยาบาลจะมีเตรียมให้ แต่แนะนำให้คุณแม่ให้ซักสะอาดและเตรียมไปเผื่อจะดีกว่านะคะ
• เอกสารสำหรับการแจ้งเกิดลูก ปัจจุบันนี้โรงพยาบาลโดยส่วนใหญ่จะเป็นคนทำเรื่องแจ้งเกิดให้ ทั้งนี้คุณพ่อคุณแม่จะต้องเตรียมเอกสารดังกล่างให้ทางเจ้าหน้าที่ด้วย เช่น สำเนาทะเบียนบ้านและสำเนาบัตรประชาชนของคุณพ่อคุณแม่ สำเนาใบทะเบียนสมรส (ถ้ามี) และก็อย่าลืมเตรียมชื่อนามสกุลสะกดถูกต้องให้ทางเจ้าหน้าที่เพื่อจัดทำสูติบัตรด้วยนะคะ

นอกจากนี้แล้วหลาย ๆ ครอบครัวก็ยังมีการเตรียมตัวเพื่อรอพบเจอหน้าลูกน้อยอีกหลายประการ เช่น การหาฤกษ์คลอดมงคลทั้งวันและเวลาเกิด การเตรียมชื่อเพราะ ๆ เพื่อเสริมสิริมงคลให้แก่ลูก การเตรียมกำหนดวันลาคลอดสำหรับคุณแม่วัยทำงานซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัทด้วย รวมไปถึงการแบ่งหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ เพราะทารกมักจะตื่นบ่อยทุก 2-3 ชั่วโมง ขับถ่ายบ่อย ต้องเปลี่ยนผ้าอ้อม อาบน้ำ กล่อมนอน ต้องอดหลับอดนอนคอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมงในทุกวัน ต้องวางแผนรับมือกันให้ดีนะคะ อาจมองหาคนใกล้ชิด หรือพี่เลี้ยงสักคน อาจช่วยให้การต้อนรับสมาชิกเป็นเรื่องง่ายขึ้นค่ะ
นอกเหนือจากการเตรียมสิ่งของแล้ว ร่างกายและจิตใจของคุณพ่อคุณแม่ก็สำคัญมาก เมื่อใกล้วันคลอดคุณแม่อาจรู้สึกกังวลใจสำหรับเรื่องต่าง ๆ แนะนำให้คุณแม่ลองออกกำลังกายเบา ๆ ฝึกสมาธิ มองโลกในแง่ดี พักผ่อนให้เพียงพอ หรืออาจฟังเพลงและคุยกับลูกในท้องเพื่อผ่อนคลายอารมณ์ เตรียมตัวให้พร้อมรับบทบาทของพ่อแม่มือใหม่ดูแลลูกตัวน้อยที่เข้ามาเติมเต็มชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์แบบกันค่ะ