6 โรคหน้าหนาว ที่ควรเฝ้าระวังในเด็ก

Last updated: 9 ธ.ค. 2566  |  263 จำนวนผู้เข้าชม  | 

6 โรคหน้าหนาว ที่ควรเฝ้าระวังในเด็ก

6 โรคหน้าหนาว ที่ควรเฝ้าระวังในเด็ก

   1. โรคไข้หวัด : 
                   อาการ : คัดจมูก มีน้ำมูกใส จาม และอาจมีอาการไอตามมา มักมีไข้ไม่สูงมากประมาณ 1-2 วัน ในบางรายอาจรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว ส่วนใหญ่มักหายได้เองภายใน 3-7 วัน
                   การป้องกัน : หลีกเลี่ยงไม่ให้เด็กอยู่ในสถานที่ที่มีคนแออัด หรือคลุกคลีกับผู้ที่เข้าข่ายสุ่มเสี่ยง รักษาความสะอาดของใช้ต่างๆ ล้างมือบ่อยๆ ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และออกกำลังกายให้เหมาะสมกับวัย

          2. โรคไข้หวัดใหญ่ : 
                   อาการ : มีไข้สูง ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย รู้สึกปวดเมื่อยตามตัว หลังจากนั้นอาจมีอาการคัดจมูก มีน้ำมูก เจ็บคอ และไอแห้งตามมา ในเด็กบางรายอาจพบอาการคลื่นไส้ อาเจียน และท้องร่วงร่วมด้วย
                   การป้องกัน : สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ และเนื่องจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่จะกลายพันธุ์ไปเรื่อยๆ รวมถึงภูมิคุ้มกันจากวัคซีนที่เคยได้รับก็จะลดลงจนไม่สามารถป้องกันเชื้อได้แล้ว จึงจำเป็นต้องฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง

    3. โรคปอดบวม : 
                   อาการ : มีไข้สูง มีเสมหะมาก ไอ รู้สึกหอบเหนื่อยง่าย หายใจเร็ว หรือหายใจลำบากจนสังเกตได้ว่าเด็กมีอาการหายใจแรง หากเกิดอาการรุนแรงอาจทำให้สภาวะปอดและหัวใจล้มเหลวจนถึงขั้นเสียชีวิตได้

                   การป้องกัน : สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันโรคปอดบวม เพื่อป้องกันการติดเชื้อ หรือลดโอกาสการเกิดความรุนแรงของโรค ทั้งนี้ ควรหลีกเลี่ยงการพาเด็กไปในสถานที่แออัดหรือพื้นที่สุ่มเสี่ยงของการแพร่ระบาด

    4. โรคอีสุกอีใส : 
                   อาการ : มักเริ่มต้นด้วยการมีไข้ต่ำๆ จากนั้นจะมีผื่นแดงราบขึ้นตามร่างกาย ต่อมาตุ่มจะนูนขึ้นกลายเป็นตุ่มน้ำใส เมื่อผ่านไปสักระยะตุ่มน้ำใสจะตกสะเก็ด และหายไปในที่สุดโดยอาจทิ้งรอยแผลเป็นไว้ หากเกิดขึ้นในเด็กเล็กอาการของโรคอาจรุนแรงได้
                   การป้องกัน : ฉีดวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใส โดยสามารถฉีดได้เมื่อเด็กมีอายุ 1 ปีขึ้นไป ซึ่งสามารถช่วยลดความรุนแรงของโรคได้ แต่สำหรับผู้ที่เคยป่วยเป็นโรคนี้แล้ว ร่างกายจะมีภูมิต้านทานต่อโรคไปตลอดชีวิต จึงมักไม่เป็นซ้ำ

     5. โรคท้องเสีย หรือ อุจจาระร่วง : 
                   อาการ : มักจะอาเจียน ท้องเสีย ถ่ายเหลว มีไข้ อ่อนเพลีย โดยความรุนแรงของอาการจะขึ้นอยู่กับปริมาณเชื้อที่ได้รับ
                   การป้องกัน : ควรล้างมือให้สะอาดทุกครั้งทั้งก่อนและหลังรับประทานอาหาร ทำความสะอาดของเล่นและของใช้ของเด็กบ่อยๆ และฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโรต้า ซึ่งจะช่วยลดโอกาสการเกิดโรคอุจจาระร่วงรุนแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
                   6. โรคหัด : 
                   อาการ : อาการเริ่มแรกจะมีไข้สูง 3-4 วัน มีน้ำมูก ไอแห้ง ซึม เบื่ออาหาร งอแง และอาจมีตาแดงได้ด้วย หลังจากนั้นจะเริ่มมีผื่นลักษณะเป็นจุดแดงเล็กๆ ขึ้นบริเวณหลังหู แล้วจึงลามไปตามใบหน้าและทั่วร่างกาย โดยหลังจากผื่นขึ้น 2-3 วัน ผื่นจะเริ่มจางลงเปลี่ยนเป็นสีคล้ำขึ้น และหายได้เองใน 7-14 วัน
                   การป้องกัน : ควรหลีกเลี่ยงการให้เด็กคลุกคลีกับผู้ป่วยหรือผู้ที่เสี่ยงเป็นโรคหัด หมั่นล้างมือให้เด็กบ่อยๆ และควรได้รับวัคซีนป้องกันโรคหัด โดยแนะนำให้ฉีดตั้งแต่เด็กอายุ 9 เดือน ขึ้นไป
  

อ้างอิง : https://www.paolohospital.com/th-TH/
 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้